ทำการตลาดอย่างไรกับคนGen Y ในอาเซียน

บริษัทสำรวจและวิจัยได้ประเมินประชากรอาเซียนของอาเซียนในปี 2020 คาดว่าจะมีจำนวนประชากร 680 ล้านคน มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากจีนและอินเดีย โดยประชากรในสัดส่วนราวร้อยละ 40 นั้นเป็นคนในกลุ่ม Gen Y อัตราการบริโภคของอาเซียนจะขยายตัวสูงขึ้นจากหลายปัจจัยโดยเฉพาะรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น จนผลักดันให้ประชากรในอาเซียนราว 60 ล้านคนยกระดับเข้าสู่การเป็นผู้บริโภคที่มีกำลังจับจ่ายใช้สอยในระดับกลางค่อนไปทางสูง และมีความต้องการสินค้าฟุ่มเฟือยซึ่งรวมถึงอัญมณีและเครื่องประดับเพิ่มขึ้น พฤติกรรมการบริโภคของคนรุ่น Gen Y ในอาเซียนแปรเปลี่ยนไปจากเดิมที่คนส่วนใหญ่มีค่านิยมซื้อทองรูปพรรณหรือเครื่องประดับทองโทนสีเหลืองเพื่อสวมใส่ในชีวิตประจำวัน มาเป็นเพียงการซื้อเพื่อสวมใส่ในงานแต่งงานหรือประเพณีสำคัญต่างๆ และเป็นการออมสะสมความมั่งคั่งเสียมากกว่า คนรุ่น Gen Y มักมองว่าการสวมใส่เครื่องประดับทองเริ่มไม่เข้ากับการแต่งกายและการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งนอกจากความกังวลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ยังได้รับอิทธิพลจากเทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กลุ่มคน Gen Y ในตลาดอาเซียนทั้งชายและหญิงจึงค่อนข้างใส่ใจกับการแต่งตัวให้ดูดี มีสไตล์เป็นของตนเอง สนใจเครื่องประดับที่มิกซ์แอนด์แมตช์เข้ากับเสื้อผ้า และมักตามติดกระแสเทรนด์แฟชั่นอยู่เสมอ คนรุ่นนี้นิยมเครื่องประดับที่ทำด้วยโลหะโทนสีขาวกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับทองขาว เครื่องประดับเงิน ทั้งที่ตกแต่งหรือไม่ตกแต่งด้วยอัญมณี เครื่องประดับเงินลงยาประเภทชาร์มหรือตกแต่งลูกปัดแก้วมูราโนหลากสี ไปจนถึงเครื่องประดับแฟชั่น  เน้นดีไซน์และคุณภาพของสินค้ามากกว่าราคา นำไปสู่การยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้สินค้าที่ตอบโจทย์กับความต้องการของตนเอง ดังนั้นกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะชนะใจลูกค้าชาว Gen Y ก็คือการคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าและตอบสนองความต้องการให้ตรงจุด ด้วยการสร้างจุดขายให้แก่สินค้า ด้วยการออกแบบสร้างสรรค์ดีไซน์เครื่องประดับที่มีความแปลกและแตกต่างมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร หรือบอกเล่าเรื่องราวของชิ้นงานเครื่องประดับที่มีความพิเศษเป็นเอกลักษณ์ มีความหายากและความงามตามธรรมชาติของอัญมณีแต่ละเม็ด หรือสอดแทรกเรื่องราวความเชื่อทางวัฒนธรรมที่มีความคล้ายคลึงกันในประเทศอาเซียน รวมถึงชิ้นงานเครื่องประดับนั้นสามารถปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ เช่น เครื่องประดับที่ลูกค้าสามารถออกแบบได้เองหรือออกแบบร่วมกับดีไซน์เนอร์ ทั้งนี้ แคมเปญทางการตลาดที่คนกลุ่มนี้ชื่นชอบก็คือ การจัดโปรโมชั่น การให้ส่วนลดหรือสิทธิพิเศษต่างๆ ซึ่งแบรนด์ต้องพูดหรือแสดงให้ชัดเจนว่าจะให้โปรโมชั่น หรือสิทธิพิเศษกับคนกลุ่มนี้อย่างไรโดยไม่อ้อมค้อม เพราะคนกลุ่มนี้มีเวลาน้อย การสื่อสารทุกอย่างจึงต้องรวดเร็ว รวมถึงการออกสินค้าคอลเลกชันใหม่ๆ ตามเทศกาลสำคัญต่างๆ หรือตามเทรนด์กระแสแฟชั่นในช่วงเวลานั้น นอกจากนั้นการนำเสนอบริการหลังการขายเช่น บริการทำความสะอาดหรือซ่อมแซมเครื่องประดับสำหรับลูกค้าเดิม ก็ยังช่วยสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า เป็นกลยุทธ์หลักที่ช่วยให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจ เชื่อมั่นและจูงใจให้กลับมาซื้อซ้ำ รวมถึงการบอกต่อไปยังกลุ่มเพื่อนหรือคน อื่นๆ ให้ลองมาใช้บริการหรือซื้อสินค้า ส่วนกลุ่มลูกค้าใหม่ควรเน้นไปที่การให้ข้อมูลหรือคำแนะนำถึงคุณภาพสินค้า การเลือกซื้อหรือตรวจสอบอัญมณี และการบริการหลังการขาย โดยเลือกใช้ช่องทางการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียไปยังคนกลุ่มนี้ จะช่วยให้แบรนด์ได้รับการตอบรับอย่างรวดเร็วและเป็นที่รู้จักในวงกว้างได้มากขึ้น